ความนิยมสมุนไพรและภูมิปัญญาไทย เป็นที่สนใจไปทั่วโลกเป็นเวลานานหลาย
ทศวรรษ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมการพัฒนา ผลิตภัณฑ์จาก
สมุนไพร ที่เรียกว่า
CHAMPION PRODUCTS
เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ มีการจัดทำ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาสมุนไพรไทย
: สมุนไพรไทย-สินค้าโลก (2556-2560) เพื่อพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ผลิตภัณฑ์ อันจะ
เป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ทางหนึ่ง สมุนไพร Champion
Products ที่ได้รับความสนใจมาก เห็นจะเป็น
กระชายดำ ซึ่งมีทั้งตำราและงานวิจัยยืนยันว่ามีสรรพคุณรักษาโรคและบำรุงร่างกายในด้านต่างๆ ถึงขนาดมีผู้เปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “โสม” ที่เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้แข็งแรง กระฉับกระเฉง ดูอ่อนกว่าวัย จากการวิพากษ์ของหมอแผนโบราณจาก 4 ภาค พบว่า กระชายดำ เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยแก้โรคบิด ปวดท้อง ลมป่วงทุกชนิด มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง บำรุงทางเพศ ขับลม แก้ปวดท้อง แต่ที่มีการกล่าวขวัญกันมากเห็นจะเป็นเรื่องของสรรพคุณที่ ช่วยบำบัดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ได้
เนื่องจากในกระชายดำ
มีสารกลุ่มพรอสตานอยด์ส (prostanoids) ไนตริกออกไซด์ และเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไนตริกออกไซด์ ซึ่งมีฤทธิ์ในการคลายการหดตัวขององคชาตคล้ายกับฤทธิ์ของเห็ด ถั่งเช่า ช่วยเพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือด และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่อวัยวะเพศชายได้ ปัจจุบันมีการส่งออกกระชายดำไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้เป็นส่วนผสมสมุนไพรสำหรับผลิตยาที่ออกฤทธิ์เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
ในส่วนของการรักษา มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา พบว่าสาร pinostrobin ในกระชายดำ มีฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้
รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ นักวิชาการจากคณะการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พูดถึง สรรพคุณของกระชายดำ ไว้อย่างน่าสนใจว่า เป็นสมุนไพรในฝันของตลาดโลก มีสรรพคุณเทียบเท่าโสมของเกาหลี ช่วยชะลอวัย ต้านอักเสบและเพิ่มความฟิต กระชายดำมีคุณสมบัติรอบด้านทั้งส่งเสริมสุขภาพและรักษา ช่วยปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มความฟิตให้ร่างกายทั้งความฟิตของกล้ามเนื้อที่ทำให้รู้สึกมีแรงกระปรี้กระเปร่า และความฟิตทางเพศ
ในยุทธศาสตร์การพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย (พ.ศ.2557-2561) ได้มีการบรรจุกระชายดำไว้เป็นหนึ่งในสมุนไพร Champion Products ที่ต้องเร่งพัฒนา รวมทั้งผลักดันให้มีการพิสูจน์ยืนยันในเรื่องคุณภาพ ประสิทธิภาพตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อบูรณาการเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพอย่างครบวงจร ผสมผสานกับการแพทย์ปัจจุบันให้ได้
ดร.นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก บอกว่า ตั้งเป้าหมายที่จะบูรณาการสมุนไพรที่มีศักยภาพเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพของประเทศให้ได้อย่างน้อย 50% ของบริการสุขภาพทั้งระบบ และเพิ่มจำนวนผู้มารับบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้ได้ 18% ของผู้ป่วยที่ใช้บริการที่แผนกผู้ป่วยนอก เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านการแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กับการแพทย์แผนไทย ซึ่งขณะนี้ได้บูรณาการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเข้าสู่ระบบบริการตามเขตสุขภาพ ซึ่งมี 12 เขต และกรุงเทพมหานครแล้ว เชื่อว่าจะช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการศึกษาวิจัยพัฒนาระบบบริการ และสมุนไพร เพื่อช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้
“นอกจากกระชายดำแล้ว เรายังมีสมุนไพรอีก 4 ชนิด คือ กวาวเครือขาว บัวบก ไพล และลูกประคบ ที่เป็น Champion Products ที่มีความต้องการสูงมากในตลาดโลก ตลาดสมุนไพรในต่างประเทศเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะในยุโรปและเยอรมนี มีการใช้ยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบันถึง 45% ทั้งๆที่ประเทศเขาไม่มีสมุนไพรมากอย่างประเทศไทย” ดร.นพ.ธวัชชัย บอก
ด้าน ภก.สมนึก สุรชัยธนาวนิช ผอ.กองยาไทยและสมุนไพร กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก บอกว่า สำหรับสมุนไพรตัวอื่นๆที่อยู่ในกลุ่มของ Champion Products เช่น กวาวเครือขาว ก็ถือว่า มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ใช้ได้ทั้งชายและหญิง ทำให้ผิวหนังที่เหี่ยวย่นกลับเต่งตึงมีน้ำมีนวล ช่วยเสริมหน้าอก ทำให้เส้นผมที่หงอกกลับดำและมีปริมาณเส้นผมเพิ่มขึ้น แก้โรคตาฟาง ต้อกระจก ทำให้ความจำดี มีพลังการ เคลื่อนไหวเดินเหินคล่องแคล่ว ช่วยบำรุงโลหิต ช่วยให้กินได้นอนหลับ นอกจากนี้ มีรายงานวิจัยทางคลินิกบอกว่าช่วยบรรเทาอาการต่างๆของสตรีวัยหมดประจำเดือนได้ดี
ขณะที่ ไพล ถือว่าเป็นสมุนไพรอัตลักษณ์ของประเทศไทย ที่มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบ ลดอาการปวด เป็นยาชาเฉพาะที่ และยังถูกจัดให้เป็นสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ สามารถนำมาใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้ ส่วน บัวบก เป็นสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างกว้างขวางมีฤทธิ์หลายประการ เช่น เร่งการหายของแผล เร่งกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ลดการเกิดแผลเป็น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มความจำ และสุดท้าย คือ ลูกประคบ ถือว่าเป็นสุดยอดภูมิ ปัญญาไทย ที่นำเอาสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้บ้าน ผิวมะกรูด ใบมะขาม ใบส้มป่อย เกลือ การบูร มาทำความสะอาดแล้วหั่น หรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ ตำพอแหลก นำมาห่อหรือบรรจุรวมกันในผ้าให้ได้รูปทรงต่างๆ ใช้แบบสดหรือทำแห้งก็ได้ สำหรับใช้กดประคบตามส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย
ทั้งนี้ นายประสาท ตราดธารทิพย์ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก บอกว่า ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 24 เม.ย.2558 จะมีการจัดงานมหกรรมการแพทย์แผนไทยแห่งชาติหมุนเวียนไปตามจังหวัดต่างๆ โดยจะมีการให้บริการด้านศาสตร์การแพทย์แผน ไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือก ประชุมวิชาการ งานวิจัย ลานวัฒนธรรม ออกร้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและภูมิปัญญาไทย
ขอบคุณที่มา : โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 21 มี.ค. 2558
หน้าที่เข้าชม | 181,570 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 125,828 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ต.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 29 ส.ค. 2568 |