หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เมื่อนกเขาไม่ขัน (ตอนที่ 1)

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction-ED) เป็นภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวจนมีเพศสัมพันธ์เสร็จสมบูรณ์ คนทั่วไปมักเรียกกันว่า ภาวะนกเขาไม่ขัน

                ED พบได้บ่อยแค่ไหน ในคนไทยมีตัวเลขที่ประมาณการไว้คือ พบประมาณ 37.5% ของชายไทยวัย 40-70 ปีหรือถ้าแยะตามอายุพบได้ดังนี้

                อายุ 40-49 ปี พบ 20.4 %

                อายุ 50-59 ปี พบ 46.3%

                อายุ 60-70 ปี พบ73.4%

                รวมแล้วคนไทยพบได้ถึง 3 ล้านคน และกำลังเพื่มขึ้นจากภาวะมลพิษในอาหารที่เราคาดไม่ถึง

กว่าน้องชายจะใช้การได้

อวัยวะของเพศชายจะแข็งตัวได้ ต้องเกิดจากการทำงานของระบบต่างๆได้แก่

                1 ระบบประสาท

                2 หลอดเลือดแดงต้องไม่ตีบ

                3 ฮอร์โมนเพชายไม่บกพร่อง

                4 สภาพร่างกายทั่วไปแข็งแรง

                5 จิตใจ

โดยทุกระบบจะทำงานประสานร่วมกัน เรื่มจากการที่มีสิ่งเร้ามากกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกทางเพศก่อน แล้วสมองก็จะเริ่มส่งสัญญาณไปยังอวัยวะเพศผ่านทางระบบประสาท (ไขสันหลังและไขประสาท) ทำให้มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศ ในขณะเดียวกัน หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ ในขณะเดียวกัน หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศจะขยายตัวขึ้นเป็น 2 เท่า ทำให้เลือดไหลมาคั่งและเลือดก็ถูกกักไว้โดยเนื้อเยื่อรอบๆ เป็นให้มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ถ้ามีอะไรก็ตามที่มาขัดขวางขบวนการเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิด ED ได้ทั้งสิ้น

สาเหตุของ ED มีอะไรบ้าง

                1 สาเหตุทางกายพบ 70% แยกเป็น

1.1   วัยทองในเพศชาย (Andropause) ร่างกายจะสร้างฮอร์โมน Testosterone ลดลงทำให้ลดลง ทำให้สมรรถภาพและความต้องการทางเพศถดถอยไปตามวัย

1.2   โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ

2 สาเหตุทางจิตใจ พบ 20%

              3 สาเหตุอื่นๆพบ 10%

สาเหตุของ ED แยกตามโรค

                1 ระบบหลอดเลือด พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากหลอดเลือดมีการอุดตันจากโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง ทำให้เลือดไหลไปยังอวัยวะเพศได้น้อยจึงไม่แข็งตัวได้

2 ระบบประสาท เกิดจากโรคของสมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาท เช่น พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ โรคเส้นเลือดของสมอง อุบัติเหตุของไขสันหลังและเส้นประสาทเสื่อม จากเบาหวานที่เป็นนานเกิน 10 ปี

3         ฮอร์โมนเพศ (Testosterone) ต่ำจากวัยทองหรือเนื้องอกของต่อมใต้สมองทำให้ความต้องการทางเพศลดลง

4         ผลจากการผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน เช่น กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก ทวารหนัก อาจมีการทำลายเส้นเลือด และเส้นประสาทบริเวณอวัยวะเพศ

5         จิตใจ เช่นเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า โรคจิต

6         สาเหตุอื่นๆได้แก่ เหล้า บุหรี่ ยาบางชนิด ยาเสพติด ขาดสารอาหารพักผ่อนน้อย

ควรสังเกตการณ์แข็งตัวของอวัยวะเพศในช่วงที่หลับ หากยังสามารถแข็งตัวได้ตอนกลางคืนหรือตอนเช้ามืด แสดงว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากจิตใจ แต่ไม่แน่นอนเสมอไป

วิธีการรักษา ED มีอะไรบ้าง

1 ยากิน ตัวที่รู้จักกันทั่วไปคือกลุ่ม Sildenafil หรือ Viagra โดยยานี้จะเพิ่มเลือด ให้ไปเลี้ยงอวัยวะเพศให้มากขึ้น แต่ยานี้จะได้ผลต่อเมื่อผู้ใช้มีความต้องการทางเพศด้วย

2 ยาฉีด ฉีดไปที่โคนอวัยวะเพศ เพื่อให้เกิดการแข็งตัว

3 ยาเม็ดสำหรับสอดทางท่อปัสสาวะ

4 อุปกรณกระบอกสุญญากาศ

5         การผ่าตัด ฝังอุปกรณ์ช่วย

6         การบำบัดทางจิต

7         เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหาร ออกกำลังกาย พักผ่อน งดเหล้าบุหรี่ ยาเสพติด

8         การใช้อาหารเสริม

ผลการรักษาเป็นอย่างไร

                ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีไหน ผลการรักษาอาจแตกต่างกันในแต่ละคน ยาที่ได้ผลกับคนส่วนใหญ่ไม่ได้แปลว่าใช้ได้กับทุกคน อาจต้องลองหาวิธีเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตามวิธีที่ใช้ควรเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง