หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เมื่อนกเขาไม่ขัน (ตอนที่ 3)
ตัวช่วยอื่นๆ
1 ลด/เลี่ยง
1.1 แอลกอฮอล์ หลายคนเข้าใจผิดว่า “ดื่มเหล้าย้อมใจ” แต่ข้อเท็จจริง คือ แอลกอฮอล์ในระดับหนึ่ง มีช่วงออกฤทธิ์ ทำให้หลอดเลือดหดเกร็งมากกว่าจึงดูเหมือนจิตใจที่ฮึกเหิม แต่ร่างกายกลับตรงกันข้าม
1.2 บุหรี่ เป็นที่แน่นอนว่า นิโคตินในบุหรี่มีผลต่อการหดเกร็งของหลอดเลือด ลดการไหลเวียนของโลหิต ไม่นับกลิ่นอันเป็นที่น่ารังเกียจ
1.3 เลี่ยงอาหารที่อาจปนเปื้อนฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ฮอร์โมนเร่งโต ฮอร์โมนที่ลดอัตรเผาผลาญ เพื่อเพิ่มมวลเนื้อ ในสัตว์ที่เลี้ยงระบบฟาร์มอุตสาหกรรม เช่น น้ำนมวัว เนื้อวัว หมู ไก่ตอน ปลาฟาร์ม
1.4 แหล่งเอสโตรเจนจากร่างกายภายนอก คือ xenoestrogen อันเชื่อว่าเป็นสาเหตุแห่งการเบี่ยงเบนทางเพศ ซึ่งหากบุรุษได้รับ estrogen เข้าไปมากก่อนจะถึงจุดเบี่ยงเบนเป็นเกย์ก็น่าจะพบอาการหย่อนเทสโตสเตอโรนไปก่อน แหล่งเอสโตรเจนที่คาดไม่ถึง เช่น พลาสติกละลายในน้ำเมื่อถูกความร้อน น้ำอาร์โอบรรจุขวดพลาสติกขาวขุ่น กล่องบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เข้าไมโครเวฟการใช้ถ้วยหรือถุงพลาสติก ช้อนพลาสติก บรรจุหรือสัมผัสความร้อน น้ำมัน ดีดีที เป็นต้น
1.5 ช่วงเวลาโอ้โลมปฏิโลม (Prelude) หรือช่วงเล้าโลมก่อนการร่วมเพศพบว่าในบางรายที่ใช้เวลาเนิ่นนานไป โดยเฉพาะการดูภาพยนตร์ปลกเร้าเป็นเวลานาน กลับทำให้อวัยวะเพศอ่อนล้าจนหมดสภาพก่อนการใช้งานจริง
1.6 บรรยากาศและสิ่งแวดล้อม อากาศที่ร้อนอบอ้าว ความคุ้นชินชา กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือระดับพื้นที่นอนที่ไม่อำนวย ล้วนเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงสำหรับ ผู่ที่อวัยวะเพศไม่แข็งแรง (เก้าอีพรานในโรงแรมม่านรูดอาจช่วยได้) ก็ท่ายืนนั้นเข้าถึงกว่านั่งคุกเข่าเป็นไหนๆ
1.7 ตำราจีนมักเน้นเรื่องการกลั้นการหลั่งน้ำอสุจิเมื่อไหร่ที่เกิดการหลั่งร่างกายต้องสูญเสียพลังไปมาก และอาจต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าเจ้าหนูจะลุกขึ้นมาใหม่ได้
2 เพิ่ม/เสริม
2.1 กิงโกะ หรือ อาร์จินิน มีรายงานผลการละลายเกล็ดเลือดและขยาบตัวของหลอดเลือดฝอย ส่วนหลินจือมีสารสกัดที่ออกฤทธิ์ ประหยัดออกซิเจนช่วยให้อึด
2.2 บริเวณหัวนมของเพศชาย ก็เป็นจุดรวมประสาทเช่นเดียวกับเพศหญิง ลองให้ขาของคุณช่วยดูด กระตุ้น ให้เกิดอารมณ์ แล้วรีบใช้โอกาสทองปฏิบัติการโดยไว แต่เนินนาน (อย่าให้กัดหรือบีบแรงเกินไปหรือนอนเฉยเป็นไม้ท่อน)
2.3 ในกรณีหลั่งเร็ว การใช้ถุงยางอนามัย มีส่วนช่วยได้มาก ในการลดประสาทสัมผัสในผู้หลั่งเร็ว แต่ตรงข้ามกับ ผู้ที่แข็งตัวช้า ถุงยางเสมือนเสื้อผ้าที่สวมอาจเป็นอุปสรรคต่อการรับสัมผัสได้
2.4 ในกรณีที่มีโรคทางกายอื่น แต่ไม่รุนแรง เช่น เบาหวาน ความดันสูง โคเลสเตอร์รอลสูง อ้วนมีโรคหัวใจหลอดเลือด ต่อมลูกหมากโต ฯลฯ อยู่ก็สมควรซ่อมบำรุงระบบแก้ไขโรคก่อน หรือจะใช้สารชีวโมเลกุลร่วมไปด้วย โดยไม่เล็งผลเลิศนัก ก็ไม่น่าขัดข้อง เช่น ให้เซลล์ตับอ่อน ม้าม แร่ธาตุ สังกะสี น้ำมันปลา โคคิวเทน แมดนีเซียม โคลีน วิตามินบี โอพีซี ฯลฯ ให้เพียงพอกับระดับความต้องการของร่างกายเข้าไว้ ดีกว่าปล่อยให้ขาดสารอาหารจนชีวโมเลกุลก็ไม่สามารถทำงานได้ อย่าลืมว่าเซลล์ที่ซ่อมแล้วก็ต้องมีอาหารบำรุงจำเริญเติบโดอย่างต่อเนื่อง
2.5 การฝึกใช้งานสมำเสมอ ก็เปรียบเสมือนการออกกำลังกายกล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อเรียบและส่วนประกอบก็น่าจะมีการฝึกซ้อมให้พร้อมใช้งาน การมีเพศสัมพันธ์ยังช่วยให้นอนหลับได้ดีอีกด้วย
2.6 การใช้ยาขยายหลอดเลือด หรือยาทาเฉพาะที่เป็นครั้งคราว น่าจะเป็นหนทางสุดท้าย ซึ่งบางคนก็อาจตอบรับได้ แต่โดยหลักแล้ว ผู้ที่ได้ผลจากการใช้ยาเฉพาะครั้งคราว แสดงว่า การแก้ไขด้วยการซ่อมแซมเซลล์พื้นฐานมีความเป็นไปได้สูงและเหมาะสม ปลอดภัยมากกว่า
2.7 หากมิได้ใช้ถุงยางอนามัย และขากการหล่อลื่น กรณีนี้ควรนึกถึง น้ำมันมะพร้าว ผลพลอยได้คือ ช่วยฆ่าเชื้อบางชนิดได้ด้วย
จะวัดผลว่าดีขึ้นได้อย่างไร
ในกรณีของอาการหย่อยสมรรถภาพทางเพศ ให้สังเกตอาการของนกเขาก่อนใช้กับหลังใช้สารชีวโมเลกุลไป 7-10 วัน โดยเฉพาะช่วงตอนที่ตื่นนอนว่าเจ้าหนูได้แข็งตัวหรือไม่ หากอ่อนปวกเปียกปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ก็อย่าพึงออกศึกให้หน้าแตก หากพอปลุกขึ้นก็แสดงว่าในส่วนสภาพร่างกายมีความพร้อมที่จะใช้งานในระดับหนึ่ง เหลือเพียงการปรับสภาพจิต และกำลังใจ
ต้องใช่นานแค่ไหน
ในวัยหนุ่ม 30-40 ปี มักรู้สึกดีได้เร็วกว่า ดังนั้นระยะเวลา 10 วันก็น่าจะพอเพียง แต่หากเป็นหนุ่ม (เหลือน้อย) 40-50 ปีขึ้นไป ถ้ารู่สึกดีขึ้น อาจทานได้ต่อเนื่อง 20-30 วัน อันนี้แล้วแต่รากฐานของเซลล์ว่าคงเหลือให้ซ่อมมากน้อยแค่ไหน ระยะการใช้งานจึงแตกต่างกัน
สรุปแนวการแก้ไข ED โดยไม่ใช้ยา
1 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ควรเริ่มจาก อาร์จินิน 1000 มก/วัน แบ่ง3มื้อ ดื่มนมถั่งเหลือง เช้า และหรือ ก่อนนอน
2 กรณีผลตอบรับยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
2.1 ผู้อายุไม่เกิน 40 ปี ลองอมใต้ลิ้น เซลสมองกับต่อมใต้สมอง อย่างละ 3 เม็ด พร้อมกันก่อนปฎิบัติการ
2.2 ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ควรทาน (อมใต้ลิ้น) เซลล์สมอง + ต่อมใต้สมอง + อัณฑะ อย่างละครั้งละ 1 เม็ด เช้า กลางวัน ร่วมกับ (กลืน) อวัยวะรวม เช้าละ 1 เม็ด เป็นเวลา 10-30 วัน และ/หรือ ร่วมกับข้อ 2.1
3 การบำรุงร่างกายระยะยาวควรใช้ข้อ 1 ร่วมกับน้ำมันปลาวันละ 1-3 แคปซูล
3.1 ผู้ขาดแร่ธาตุสังกะสี (เช่นมีสัญญาณของร่างกาย เล็บเปราะ มีจุดขาว) สมควรเพิ่มแร่ธาตุสังกะสี
ยังมีสิ่งที่ช่วยลดความหนืด การเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เสริมการไหลเวียนโลหิต และประหยัด การใช้ออกซิเจน เช่น กิงโก หรือสารสกัดเห็นหลินจืด
กรณีที่เครียดมากให้เพิ่มเซลล์ต่อมไพเนียล 1x2 ด้วย หากไม่เครียดอย่าใช เพราะไพเนียลออกฤทธิ์ ชวนสงบ สยบมากกว่า จำไว้ว่าถ้าจะกระตุ้นต้องต่อมใต้สมอง
ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรแก้ปัญหาเบาหวานก่อน เช่น เซลล์ตับอ่อน 1x3 หากมีปัญหาของไตเสื่อมสภาพ อาจเพิ่มเซลล์ไต 1x3
ผู้เป็นความดันสูง คงต้องเพิ่ม ไพเนียล,ต่อมหมวกไต รวมทั้ง โคคิวเทน และแมกนีเซียม
ไขมันคลอเลสเตอร์รอลสูง ควรเพิ่มน้ำมันปลา โคคิวเทน และ แมกนีเซียม
น้ำมันปลา กิงโก หลินจือและแอสไพริน อาจเสริมฤทธิ์ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดหยุดยาก พึงระวังในการใช้ร่วมกัน
*** ติดตามเรื่องการแพทย์ชีวโมเลกุลในตอนต่อไป ***
หน้าที่เข้าชม | 181,570 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 125,828 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ต.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 29 ส.ค. 2568 |